เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่บริเวณลานกว้างหน้าวัดบ้านใหม่โพธิ์เย็น หมู่ 6 ต.วังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ มีชาวบ้านจากทั่วสารทิศในเขตพื้นที่อำเภอตรอนและใกล้เคียง แห่ดูต้นตะเคียนยักษ์ที่มีความยาวถึง 36 เมตร อายุกว่า 100 ปี นามว่า “แม่บัวขาว” หลังทราบข่าวว่า ทางคณะกรรมการวัดได้นำต้นตะเคียนยักษ์ขึ้นมาจากแม่น้ำน่าน หลังจากนายวิม เกิดแก้ว และ นายชาย พุกชื่น ซึ่งเป็นชาวบ้านได้วางตาข่ายดักหาปลาที่บริเวณท่าน้ำซึ่งอยู่ด้านหลังของวัด แล้วตาข่ายเกิดไปติดพันกับต้นตะเคียน จึงแจ้งให้พระครูสุสีลวัตร เจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่โพธิ์เย็น เจ้าคณะตำบลบ้านแก่ง ได้รับทราบเมื่อปี 2556 แต่ไม่สามารถนำต้นตะเคียนดังกล่าวขึ้นมาจากแม่น้ำน่านได้ เพราะน้ำลึก ปีนี้ทางเขื่อนสิริกิติ์ลดการปล่อยน้ำลง ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านแห้ง ต้นตะเคียนจึงโผล่เหนือน้ำขึ้นมา ทางคณะกรรมการวัด จึงถือฤกษ์พร้อมนำขึ้นจากแม่น้ำน่านทันที ด้วยรถแทร็คเตอร์จำนวน 3 คัน ช่วยกันชักลากจูงมาไว้ที่บริเวณลานกว้างหน้าวัด
จากนั้นได้นำเครื่องบายศรีปากชาม ผลไม้ 5 อย่าง นำเขียวน้ำแดง ดอกไม้ธูปเทียน พวงมาลัยดอกดาวเรืองยาว 9 ศอก ผ้าขาวยาว 4 เมตร จำนวน 3 ผืน พร้อมด้วยผ้า 3 สี อาทิ สีเขียว สีฟ้าและสีชมพู พันรอบต้นตะเคียน โดยนำแป้งขาวมาทาพร้อมติดแผ่นทองคำเปลวที่บริเวณโคนใต้ต้นตะเคียน โดยชาวบ้านได้นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้และนำแผ่นทองคำเปลวมาติดที่ต้น ตะเคียนด้วยตามความเชื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว พร้อมนำกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก บ้างก็นำกล้องถ่ายรูปจากมือถือและไอแพดส่ายหาเลขเด็ดตั้งแต่บริเวณใต้โคนต้น ตะเคียน กลางลำต้นไปจนถึงส่วนปลายของต้นตะเคียน เพื่อหวังนำไปเสี่ยงโชคในวันที่ 1 พ.ย.นี้
นายวิม ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่วังแดง กล่าววว่า ตนพร้อมเพื่อนไปวางข่ายดักปลา พบต้นตะเคียน จึงแจ้งให้ทางคณะกรรมการและเจ้าอาวาสวัดได้รับทราบ พร้อมนำขึ้นมาจากแม่น้ำน่าน ก่อนนำขึ้นจากแม่น้ำ ได้ทำพิธีตามหลักประเพณีในการอัญเชิญต้นตะเคียนขึ้นมาไว้ที่วัดด้วยการสื่อ สารกับเทพที่รักษาต้นไม้ ทราบชื่อว่า “บัวขาว” ชาวบ้านเรียก “แม่บัวขาว” ตะเคียนต้นนี้จมอยู่ในแม่น้ำน่าน นานกว่า 100 ปี สภาพต้นตะเคียนตั้งแต่ที่พบเห็นมา ในจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียง ต้นนี้ถือมีความสมบูรณ์มากตั้งแต่โคนต้นไปจนถึงปลาย มีความยาวไร่เรี่ยเท่ากันและเชื่อว่ามีความใหญ่กว่าต้นตะเคียนอื่นที่เคยพบ เห็นมาด้วยซ้ำไป ชาวบ้านต่างเรียก ตะเคียนยักษ์ และเชื่อว่าตะเคียนต้นนี้มีอายุกว่า 300 ปี ไล่เลี่ยกับอายุของวัด เพราะวัดแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ปีพ.ศ.2170 และได้รับวิสุงคามสีมา พ.ศ.2200 เป็นวัดมาถึงปัจจุบันนี้ วัดมีอายุ 387 ปี
นายวิม กล่าววว่า ที่พบเห็นต้นตะเคียนอยู่ในแม่น้ำน่านโดยเฉพาะบริเวณท่าน้ำท้ายวัด ไม่เป็นเรื่องแปลกอะไร เพราะที่วัดแห่งนี้มีต้นตะเคียนต้นเล็กและใหญ่ จำนวนกว่า 60 ต้น อยู่โดยรอบบริเวณวัด พร้อมมีต้นตะเคียนคู่ขนาดใหญ่มีอายุกว่า 200 ปี ตั้งเด่นสง่าอยู่ข้างหลังพระอุโบสถ์ ชาวบ้านต่างให้ความนับถืออย่างมาก ตามความเชื่อของชาวบ้าน มีการนำผ้า 7 สี ผ้าสไบนางหลากหลายสีและชุดเสื้อผ้าพร้อมหุ่นผู้หญิงจำนวนมาก นำมาถวายให้อยู่ตลอด หลังได้รับการตอบแทนจากการเสี่ยงโชค หากไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ และเป็นความเชื่อส่วนบุคคลสำหรับผู้ที่ศรัทธาเท่านั้น
http://www.tlcthai.com/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น