อาจารย์รุ่งธรรม ศรีวรรณธนศิลป์ เป็นหนึ่งในอาจารย์ที่ดูแลสถานที่แห่งนี้ได้พาเดินชมกล้วยตานีนวล ซึ่งปลูกอยู่ในสวนหลังพิพิธภัณฑ์พบว่ากล้วยกอดังกล่าวมีทั้งหมด 38 ต้น มีทั้งต้นขนาดใหญ่และเล็กลดหลั่นลงมา โดยต้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดคนโอบได้ สูงกว่า 5 เมตร ลำต้นอวบใหญ่สมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งต้นตานีต้นนี้กำลังตกเครือซึ่งอยู่จากพื้นดินขึ้นไปประมาณ 5 เมตร ในเครือเดียวกันนั้นที่ปลายเครือมีปลีกล้วยออกมาจำนวน 2 ปลี ซึ่งโดยปกติทั่วไปกล้วยทุกต้นทุกสายพันธุ์จะมี 1 ปลี และให้ลูก 1 เครือเท่านั้น
สำหรับปลีกล้วยตานีทั้ง 2 ปลีของกล้วยตานีต้นนี้มีขนาดเท่ากัน ผิวของปลีที่ยังตูมหุ้มอยู่จะมีนวลติดอยู่ ส่วนกาบปลีที่บานออกแล้วมีสีแดงอมชมพูเข้ม เมื่อตัดกับหัวปลีที่ยังมีนวลติดอยู่จึงสวยงามเป็นอย่างมาก ส่วนต้นอื่นๆ ในกอเดียวกันจะมีแค่ 1 ปลีต่อกล้วย 1 เครือเท่านั้น โดยปลีกล้วยตานีต้นนี้ออกมาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่าน
อาจารย์รุ่งธรรม เปิดเผยว่า ตนปลูกกล้วยมานานกว่า 30 ปี ปลูกมาทุกสายพันธุ์ ทั้งกล้วยพื้นเมือง และกล้วยสายพันธุ์ต่างประเทศ ยังไม่เคยเห็นกล้วยตานีออกเครือมาแล้วมี 2 ปลี ซึ่งมีขนาดเท่ากันอีกด้วยซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกมาก จากการสอบถามอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วบอกว่าแปลกไม่เคยเห็นมา ก่อนเหมือนกัน อย่างไรก็ตามกล้วยกอนี้ปลูกมาแล้ว 2 ปี เพิ่งออกลูกเป็นครั้งแรก โดยกล้วยตานีเป็นกล้วยโบราณเป็นรากเง้าของกล้วยทั้งหมด ใบสีเขียวเข้ม นิยมนำมาประดิษฐ์เป็นรูปแบบต่างๆ ทั้งบายศรี กระทงและอื่นๆ ซึ่งใช้ในงานหัตถกรรมได้ดี เนื่องจากมีคุณสมบัติใบเหนียวไม่แตกง่ายและสีเข้มงดงาม ส่วนที่เชื่อกันว่าต้นกล้วยตานีมักจะมีนางตานีอาศัยอยู่นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง อาจเป็นเพราะว่าทั้งใบและกาบของต้นตานีนิยมนำไปใช้ในงานอวมงคล
นอกจากต้นตานีต้นนี้แล้วยังมีต้นกล้วยพันธุ์มาฮอย ซึ่งในต้นเดียวกันมีเครือกล้วยออกมาถึง 2 เครือ ในตอนแรกเห็นกำลังตั้งท้องซึ่งผิดปกติเพราะใหญ่มาก จึงช่วยทำคลอดโดยการผ่าตรงบริเวณที่ปลี กล้วยจะออก จากนั้นปลีแรกก็ออกมา แต่เมื่อกลับไปดูอีกรอบก็เห็นว่าบริเวณที่ออกปลีท้องยังเป่งอยู่ จึงกรีดให้แผลใหญ่ขึ้น ก็ปรากฏว่ามีปลีออกมาอีก 1 ปลี รวมเป็นตกลูกในต้นเดียวกัน 2 เครือ ซึ่งก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเช่นกัน และจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นของปีนี้ พบว่าต้นกล้วยบางสายพันธุ์ ตกเครือออกลูกทั้งต้นเล็กต้นใหญ่เต็มไปหมดทุกต้น สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยมีปรากฏมาก่อน คาดว่าน่าจะเป็นที่สภาพอากาศซึ่งผิดปกติกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ที่มา :jokerza.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น