สำหรับประวัติของเจ้าแม่ตะเคียนนั้น มาจาก ต้นตะเคียนในวัดที่มีขนาดใหญ่มาก ยืนต้น เป็นต้นตะเคียนคู่วัดเลยก็ว่าได้ จากการเล่าขานของชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ภายในหมู่บ้านวัดทรงเสวยเล่ากันว่า ในสมัยนั้นภายในวัดทรงเสวย เต็มไปด้วยป่า กลางค่ำกลางคืนก็มืด น่ากลัวมาก จึงไม่มีใครกล้าผ่านเข้าที่วัดทรงเสวยในเวลากลางค่ำกลางคืน แต่ก็เป็นที่น่าแปลกพอถึงช่วงหวยใกล้จะออกก็จะมีชาวบ้านทั่วทุกทิศมาขอโชคลาภที่วัดทรงเสวย โดยจะนำแป้งมาทาที่โคนต้นเพื่อหาเลข แล้วก็ไปซื้อตามที่ได้มา แต่ช่วงสมัยแรกๆนั้นยังเป็นต้นตะเคียนธรรมดาไม่ใหญ่โตอะไร พอเวลาผ่านในสมัยของหลวงปู่ย้อย ซึ่งศิษย์ของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขาม เริ่มมีการพูดถึงว่ามีคนเห็นผู้หญิงรูปร่างสวยงามแต่งชุดไทยสวยงาม อยู่บริเวณต้นตะเคียนแห่งนั้น เริ่มมีการไปเข้าฝันให้โชคคนในหมู่บ้าน หลายครั้ง และด้วยความที่ต้นตะเคียนมีขนาดใหญ่ขึ้นมาตามกาลเวลา ชาวบ้านและพระในวัด จึงคุยกันว่าจะต้องโค่นต้นตะเคียนเพราะกลัวกิ่งไม้จะหักลงมา แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของแม่ตะเคียน ก็ไปเข้าฝันคนในหมู่บ้าน แต่งตัวสวยงาม ผมยาวถึงเอว พอรุ่งเช้าชาวบ้านก็มาปรึกษาหลวงพ่อย้อย จากนั้นก็นั่งหลับตาไปสักพักใหญ่ พอลืมตาขึ้นก็บอกว่าไม่ต้องตัดหลอกที่ตรงนั้นมีรุกขเทวดาประจำอยู่ จึงไม่มีใครเข้าไปทำการตัดหรือยุ่งกับต้นตะเคียนอีก หลังจากนั้นมาต้นตะเคียนก็มีแต่ให้โชคให้ลาภกับผู้ที่ผ่านไปขอโดยตลอด
ด้านนางสาวปราณี แสงวิลัย ชาวบ้านละแวกวัดทรงเสวยที่ถูกหวยเป็นประจำ เผยว่า ตนมาขอเลขเด็ดกับแม่ตะเคียนเป็นประจำ งวดไหนที่มาขอก็มาขูดหาเลข พอได้เลขก็เดินไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล กับแผงที่มาขายอยู่ข้างๆศาลเจ้าแม่ตำเคียน ก็ถูกรางวัลตลอดที่มาขอ อย่างรางวัลใหญ่ที่สุดก็ คือ รางวัลที่ 3 จำนวนหลายใบ จากนั้นก็ถูกรางวัลที่ 4 บ้าง เลขหน้าเลขท้าย 3 ตัว เลขท้าย 2 ตัว อยู่ตลอด โดยส่วนตัวแล้ว จะมาขอโชคลาภในเวลาที่ต้องการใช้เงินจริงๆเท่านั้น พอมาบอกกล่าวความเดือดร้อนแก่เจ้าแม่ตะเคียน เจ้าแม่ก็ช่วยเหลือเสมอมา จึงเคารพและศรัทธาเจ้าแม่ตะเคียนมาก ซึ่งหลายๆคน ที่มาแก้บนนั้น ก็ถูกรางวัลได้เงินเยอะถึงหลักล้าน แต่ไม่ค่อยแสดงตัวกันสักเท่าไร เพราะของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
ซึ่งงวดนี้หลังจากที่ มีการขูด ลูบ ต้นตะเคียนแล้ว ก็มีคนเห็นเลขอย่างชัดเจน และตะโกนบอกแก่ผู้ที่มาขอโชคลาภว่า 75 และ 54 สร้างความฮือฮาแก่ชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นจำนวนมาก จนไปหาซื้อเลขดังกล่าวกันจ้าละหวั่น
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ บ้านเมือง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น